ธรณีพิบัติภัย

🌋 ประเภทของธรณีพิบัติภัย

🌋 การปะทุของภูเขาไฟ

การปะทุของภูเขาไฟเกิดจากการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก ทำให้หินหลอมเหลวพุ่งขึ้นสู่ผิวโลก สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตมนุษย์

🌍 แผ่นดินไหว

เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานสะสมในเปลือกโลกอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดิน วัดความรุนแรงด้วยมาตราริกเตอร์

🌊 สึนามิ

คลื่นยักษ์ที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล การปะทุของภูเขาไฟใต้น้ำ หรือการพังทลายของแผ่นดิน สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรได้

⛰️ แผ่นดินถล่ม

การเคลื่อนตัวของมวลดินและหินลงจากที่สูง เกิดจากฝนตกหนัก แผ่นดินไหว หรือการกัดเซาะของน้ำ

🕳️ หลุมยุบ

เกิดจากการที่พื้นดินทรุดตัวลงไปในโพรงหรือช่องว่างใต้ดินที่เกิดจากการละลายของหิน หรือการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน

🧱 รอยดินแยก

การหดตัวของดินเมื่อสูญเสียความชื้น, การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก, หรือการกัดเซาะของน้ำและลม

🛰️ การติดตามและเฝ้าระวัง

เทคโนโลยีดาราศาสตร์

การใช้ดาวเทียมในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก การเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก และการตรวจจับสัญญาณเตือนภัย

เครื่องมือวัดแผ่นดินไหว

ไซส์โมมิเตอร์ (Seismometer) เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจจับและวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว

การพยากรณ์ภูเขาไฟ

การติดตามอุณหภูมิ การปล่อยแก๊ส และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของภูเขาไฟ

🛡️ การป้องกันและเตรียมพร้อม

ระบบเตือนภัยล่วงหน้า

การพัฒนาระบบเตือนภัยที่รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้ประชาชนมีเวลาเตรียมตัวและอพยพ

การวางแผนเมือง

การออกแบบอาคารและโครงสร้างให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว และการหลีกเลี่ยงการสร้างในพื้นที่เสี่ยง

การศึกษาและสร้างความตระหนัก

การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยพิบัติและวิธีการป้องกันตนเอง

🔬 ความเชื่อมโยงกับดาราศาสตร์

การศึกษาธรณีพิบัติภัยมีความเชื่อมโยงกับดาราศาสตร์ในหลายด้าน เช่น การศึกษาผลกระทบของอุกกาบาตที่ตกใส่โลก การเปรียบเทียบกิจกรรมทางธรณีวิทยาบนดาวเคราะห์อื่น และการใช้เทคโนโลยีอวกาศในการติดตามและศึกษาภัยพิบัติ

มุมมองจากอวกาศช่วยให้เราเข้าใจพลังของธรรมชาติที่มหาศาลและความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้